เมื่อคืนฟังสามก๊กในยูทูป ตอนที่สุมาอี้ต้องเผชิญหน้ากับขงเบ้ง บอกเลยว่าตอนนี้มันสะท้อนอะไรได้เยอะมาก โดยเฉพาะเรื่อง “การรอคอยจังหวะ”
ขงเบ้งยอดกุนซือจากจ๊กก๊ก กำลังวางแผนล่อสุมาอี้ให้ออกจากค่าย เพราะรู้ว่าถ้าสุมาอี้เสียความอดทนเมื่อไหร่ มีหวังพังทั้งทัพ แต่สุมาอี้เป็นคนที่โคตรนิ่ง! ต่อให้โดนส่งจดหมายมาเยาะเย้ย โดนคนล้อว่าขี้ขลาด บางคนเอาผู้หญิงมาเยาะเย้ยกันตรงๆ ว่า “นี่ถ้ากลัวขนาดนี้ ใส่กระโปรงเลยมั้ย?”
ถ้าเพื่อนๆโดนแบบนี้ จะไหวมั้ย? เราฟังถึงตรงนี้ยังแอบจี๊ดแทน แต่สุมาอี้กลับไม่เคลื่อนไหว เขาแค่บอกคนในกองว่า “คนฉลาดต้องรู้จักรอ คนที่รีบร้อนลุยโดยไม่พร้อม มีแต่จะพัง”
แล้วเขาชนะยังไง?
สุมาอี้ไม่ทำอะไรเลย นั่งนิ่งอยู่ในค่าย รอจนเสบียงของขงเบ้งหมดก่อน สุดท้ายขงเบ้งต้องถอยกลับไปเอง และสุมาอี้กลายเป็นฝ่ายชนะโดยแทบไม่ต้องเสียแรงอะไรเลย
พอฟังถึงตรงนี้ เรานึกถึง หมากล้อม ขึ้นมาทันที ในหมากล้อม บางครั้งคุณต้องเสียพื้นที่เล็ก ๆ เพื่อให้ได้พื้นที่ใหญ่ บางครั้งต้องรอคู่ต่อสู้เปิดจุดอ่อนก่อน ถึงจะเดินหมากชนะได้ ถ้ารีบเร่ง บางทีอาจเดินพลาดจนเสียกระดานไปหมด
เรื่องนี้สอนอะไรเราได้บ้าง?
– บางครั้งในชีวิตก็มีสถานการณ์ที่เหมือนคนมายั่วให้เรารีบตัดสินใจ หรือบังคับให้เราทำอะไรเร็ว ๆ แต่การรีบลงมือโดยไม่คิดให้รอบคอบ อาจทำให้เราเสียเปรียบในระยะยาว
– การอดทนไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อลงมือ
– เหมือนเกมหมากล้อมที่ไม่ใช่แค่เกม แต่คือกระดานชีวิต ทุกหมากมีค่า และทุกจังหวะที่เราเลือก จะส่งผลกับชัยชนะในอนาคต
แล้วเพื่อนๆล่ะ?
ถ้าเป็นสุมาอี้ จะอดทนได้ไหวไหม หรือจะลุยให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย? มาเล่าให้ฟังหน่อยในคอมเมนต์!
สรุปง่าย ๆ ชีวิตก็เหมือนหมากล้อม บางทีไม่ต้องรีบวางหมากก็ชนะได้ ขอแค่รอจังหวะที่ใช่